‘ชมพู่ อารยา’ เปิดความจริงถึง ‘น็อต-แทน’ หลังมีข่าวบ้านน้อย
จากกรณีที่มีชาวเน็ตโยงอักษรย่อ สามีซุปตาร์มีบ้านน้อย ซึ่งหลายคนพุ่งเป้ามาที่บ้านของชมพู่ อารยา กับ น็อต วิศรุต เเต่ข่าวลือ
ดังกล่าวก็ปัดตกไป ล่าสุดวันนี้ ( 10 กุมภาพันธ์ 2566 ) ชมพู่ อารยา ได้ออกมาเปิดใจว่า ก็ไม่ใช่เเล้วไงเลี้ยวไปเเล้ว ชมว่าไม่มี
ใครชอบให้ใครมาเเตะครอบครัว มันคืออันดับ 1 สำหรับเรา ชมเชื่อว่าถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวใครก็ไม่ชอบ เราก็คุยกับพี่น็อต คุยว่ามัน
เป็นเเบบนี้ใครทำอะไรเรา ผิดหวังที่โยงมาคู่เรา เราอยู่โดยที่ไม่เคยรังเเกใคร ชมไม่ได้คุยกับน้องที่เป็นข่าว เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้อง
คุยกัน เราก็เดือดร้อนทุกฝ่าย เขาก็เเล้วเเต่เราว่าจะยังไง ความรู้สึกเรามาอันดับเเรก ต้องเเบ่งเป็น 2 กรณี คนที่มองเข้ามา เราห้ามใครคิด
ไม่ได้ อีกจุดที่ว่าเราอยู่ของเราดีๆทำไมมันเกิดขึ้นกับเรา ชมไม่ต้องตามหาก็รู้ต้นตอเเล้วว่าเกิดจากใคร ขอบคุณทุกคนที่รักครอบครัวเรา
ตรงนี้ซาบซึ้ง ถ้าจะให้พูดคือเราก็หลงผู้ชาย เราไม่ต้องออกมาอธิบายหรอก เราไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องอธิบายว่าเราเป็นอย่างงั้นอย่างงี้
เรารู้จักพี่น็อต เรามีโฟกัส มีภาพบางอย่างร่วมกัน มันไม่ควรถูกทำลายด้วยข่าวเเบบนี้ เราต่างคนต่างทำหน้าที่ของกันเเละกัน ที่ผ่านมา
ชมไม่ได้โฟกัสว่าใครมองพี่น็อต หรือคนไหนหิวอะไรเเบบนี้เราไม่ได้โฟกัสเลย เราห้ามความคิดคนไม่ได้ ข่าวที่เกิดขึ้นเราก็ยังมั่นใจเขา
เหมือนเดิม ไม่มีผลกระทบอะไร ความสัมพันธ์ยังเเน่นขึ้น อยากหาต้นตอไหม ว่ามาจากไหน ? “คือชมไม่ต้องตามหา ก็มีคนบอกอยู่แล้วไหม”
เราบอกกับลูกๆ ยังไง ถ้าเห็นข่าว ? “คือเด็กก็ยังเด็กมากค่ะ ยังไม่รู้เรื่องอะไร” เราบอกกับลูกๆ ยังไง ถ้าเห็นข่าว ? “คือเด็กก็ยังเด็กมากค่ะ
ยังไม่รู้เรื่องอะไร” อีกมุม ก็มีคนซัพพอร์ตเราเยอะมาก ? “ใช่ค่ะ ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนค่ะที่รักครอบครัวเราด้วย ต้องบอกว่าตรงนี้คือซาบซึ้งจริงๆ”
ผู้ชายมีครอบครัวมักจะดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น เคยมีเหตุการณ์แนวนี้เข้าหูบ้างไหม ? “ก็ไม่เคยนะ ที่ผ่านมาก็ไม่รู้ และไม่เคยโฟกัสด้วย หรือจะต้องมานั่งจับผิดว่า
คนนี้มองเขา หรือคนนี้จะแท็กมา หรือคนนี้ดูหิว อะไรแบบนี้ คือเราไม่ได้ไปโฟกัสตรงนั้นค่ะ” อาจจะเพราะว่า พี่น็อต หล่อขึ้น และดูฮอตมาก คนเลยจับตาเยอะขึ้น ?
“อื้ม ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คือเราห้ามความคิดคนไม่ได้ อยากจะคิดอะไร เอาที่สบายใจเลย เรื่องมรดกคือเป็นเรื่องที่เราคุยกันอยู่เเล้ว เราผ่านการสูญเสียอะไรเเบบนี้
เราฟังเรื่องงานของเขาอยู่ตลอด ถ้าเกิดวันนึงถ้าเราไม่อยู่ ลูกจะทำยังไง เราคุยกันตลอดเวลาอยู่เเล้ว ก็เซ็นต์ชื่อเราในพินัยกรรมจริงๆ